FLOW (12)

『FLOW』

Free! fanfiction
Rate: PG

※※※※※※

(12)

“นั่นน่ะเหรอ เรื่องที่มาโกโตะบอกว่าจะคุยกับนาย”

“ใช่มั้ง ไม่ใช่มั้ง ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”

“ไหงงั้น ก็หมอนั่นบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับนาย”

“ก็หมอนั่นบอก ไม่ใช่ฉันบอกอยากรู้ขนาดนั้นก็วิ่งตามไปถามสิ” ฮารุกะชักจะหงุดหงิดที่ถูกเซ้าซี้ถาม…

“ไม่เอาดีกว่า”

“ทำไมล่ะ?”

“ก็ตอนนี้…ฉันอยากอยู่ที่นี่มากกว่า” …อยากอยู่กับนายมากกว่า

“เหรอ…” ฮารุกะรู้สึกว่าไม่สามารถห้ามมุมปากตัวเองไม่ให้ยกยิ้มน้อยๆ ได้

ไม่รู้ว่าทั้งสองคิดไปเองรึเปล่าว่าบรรยากาศในตอนนี้มันช่างหวานแหววเป็นสีชมพูและมีมวลหมู่ดอกไม้ลอยละล่องยังไงชอบกล

“นี่ริน แล้ว ‘เรื่องนั้น’ ที่ประธานชมรมนายพูดถึง…”

คราวนี้รินทำหน้ายุ่ง…เขาจะอธิบายกับฮารุกะยังไงดีน้า

“คือไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากบอกนายเพราะอยากจะปกปิดอะไรหรอกนะ แต่ว่ามันเกี่ยวพันกับเรื่องส่วนตัวของกัปตัน แล้วถ้าฉันเอามาเล่าต่อให้คนอื่นฟังมันจะดูไม่ดีน่ะ เอ่อ นายคงไม่โกรธฉันใช่มั้ย?” รินช้อนตามองอย่างกล้าๆ กลัวๆ ทั้งที่เขาไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองผิดอะไรแต่กลับไม่สบายใจเลยที่มีเรื่องที่บอกกับฮารุกะไม่ได้อยู่แบบนี้

…โธ่เว้ย เพราะเจ้ากัปตันหน้าโง่กางเกงว่ายน้ำจิ๋วรัดติ้วนั่นแท้ๆ !

พอเห็นสายตาฉลามหงอยของรินที่มองมา ฮารุกะก็ขำเบาๆ ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวของประธานนั่นเขาก็ไม่ได้อยากรู้อะไร ที่ข้องใจก็เพราะนึกว่ามันเกี่ยวข้องกับรินแค่นั้นเอง

นี่เองสินะ ที่มาโกโตะบอกไว้ ถ้าเขาไม่พูด รินก็ไม่รู้ ถ้าเขาไม่ถาม รินเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาอยากรู้เรื่องอะไร

“เหมือนที่มาโกโตะพูดไว้เลยแฮะ” ฮารุกะพึมพำ ทำเอาคนข้างๆ ที่พอได้ยินชื่อมาโกโตะหลุดมาจากปากของฮารุกะก็หงุดหงิดอยากเตะถังขยะไม่ก็ทุบเครื่องกดน้ำอัตโนมัติขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผลอีกแล้ว

…ทั้งที่ตอนนี้มีฉันอยู่ข้างๆ แล้วนายจะพูดถึงหมอนั่นทำไม!

“ก่อนหน้านี้ ฉันคุยกับมาโกโตะว่าถึงฉันไม่พูดหมอนั่นก็เข้าใจทุกอย่าง” ฮารุกะว่าพลางหันมามองหน้ารินตรงๆ

…ใช่ซี้…หมอนั่นมันรู้ใจนายไปหมดนี่!

“แต่มาโกโตะบอกว่ากับนายไม่ใช่ ถ้าฉันไม่พูดนายก็ไม่เข้าใจ”

…แหงล่ะ ฉันไม่ใช่เอสเปอร์อย่างหมอนั่นนี่หว่า!!

“เพราะงั้น ฉันกับนาย เรามาพูดกัน คุยกันให้เยอะๆ เถอะนะริน เพื่อชดเชยช่วงเวลาก่อนหน้านี้ที่พวกเราต้องห่างกันและไม่เข้าใจกันนะ เพราะฉันน่ะอยากรู้ทุกเรื่องของนายเลย”

…อ๊าก โธ่เว้ย ทนไม่ไหวแล้วโว้ย!! รินสบถในใจ ก่อนจะคว้าร่างของฮารุกะมากอดหมับ แล้วบดเบียดริมฝีปากตัวเองลงไปบนริมฝีปากของคนในอ้อมกอด

ฮารุกะเบิกตาโพลงตะลึงมอง แต่ก็ไม่ขัดขืนทั้งพยายามตอบสนองอย่างเต็มที่

แต่ขณะกำลังแอบลุ้นอยู่ในใจว่ารินจะสอดลิ้นเข้ามาหรือไม่ ริมฝีปากของอีกฝ่ายก็ผละออกไปทันทีราวกับโดนของร้อน

“เอ่อ คือ นะนะนี่เป็นธรรมเนียม…เวลา เอ่อ…ขอโทษ ใช่ เวลาขอโทษของที่ออสฯ น่ะ เวลารู้สึกผิดต่อคนสำคัญและอยากจะขอโทษ กะ ก็ให้ จะ จะ จู…เอ๊ย เอ่อ เอาปากประกบกันแทน” กล่าวติดๆ ขัดๆ ทั้งใบหน้าแดงเถือก แถมริมฝีปากยังมีคราบความชื้นหลงเหลืออยู่

‘โอ้ๆๆ วัยรุ่นนี่ร้อนแรงกันจังเลยน้า…’ คุณพ่อที่เงียบมานานเพราะงีบกลางวันไป ตื่นขึ้นมาทันได้เห็นฉากเด็ดพอดี เลยนั่งมองนั่งขำลูกตัวเองเสมือนเป็นละคร

‘ว่าแต่จูบเพื่อแสดงความขอโทษเนี่ยนะ ขนาดเด็กอมมือยังรู้เลยว่าซุงแหลชัดๆ เจ้ารินเอ๊ย ทั้งโง่ทั้งบ้า เหมือนใครก็ไม่รู้’

“งั้นเหรอ เพื่อขอโทษสินะ…” น้ำเสียงฮารุกะสลดไป…ร่างกายเย็นเฉียบเหมือนโดนน้ำเย็นสาด อุณหภูมิร่างกายที่ร้อนระอุเมื่อกี้ดูราวกับเป็นเรื่องโกหก ที่ใบหน้ารู้สึกชา รู้สึกตัวเองช่างน่าสมเพชนัก ที่เผลอคิดเข้าข้างตัวเองไปว่ารินจูบเพราะเหตุผลอื่น

‘อ๊ะ ชะอ้าว…ฮารุกะคุงนี่ก็โง่ เอ๊ย ใสซื่อเกินไปแล้ว ช่วยไม่ได้น้า ได้เวลาป๊ะป๋าออกโรงแล้ว! ’

ว่าแล้วคุณพ่อก็จับวิญญาณฮารุกะกลับไปขังไว้ในห้องมืดภายในจิตใจอีกครั้งโดยที่เจ้าของร่างไม่ทันตั้งตัว

…โธ่ คุณพ่อครับ ทำไมต้องโผล่มาตอนอยู่กับรินสองต่อสองด้วยนะ

ฮารุกะหมดเรี่ยวแรงจะทุบประตูห้องแห่งจิตใจนั้น จึงได้แต่นั่งกอดเข่ารอดูสถานการณ์

ที่ผ่านมาคุณพ่อเจ้าปัญหาก็ทำเรื่องน่าอายไปตั้งเยอะแล้ว ป่านนี้คงไม่มีอะไรให้เสียแล้วล่ะ…มั้ง?

“ริน ฉันถามอะไรหน่อยสิ” คุณพ่อในร่างฮารุกะแกล้งทำเนียนตีสีหน้าหดหู่น้ำตาคลอเบ้า

“ถะ ถามอะไรเหรอฮารุ?” รินที่ยังตกใจกับจูบเมื่อกี้ไม่หายทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายกระทำ ถึงกับสะดุ้งเบาๆ เมื่อเห็นปฏิกิริยาของอีกฝ่าย

“ฉันเป็นอะไรสำหรับนายกันแน่!?” ฮารุกะถามด้วยเสียงสั่นเครือ หยาดน้ำตาร่วงเผาะ ทว่าวิญญาณผู้ครอบครองร่างในขณะนี้กำลังกระหยิ่มยิ้มย่องในใจพลางบอกตัวเองว่า …เล่นละครเก่งเป็นบ้าเลยเรา ตอนยังไม่ตายน่าจะเอาดีทางด้านการแสดงมากกว่าชาวประมงนะเนี่ย

“หา!?” ทั้งคำถามและน้ำตาบนใบหน้านั้นทำเอารินถึงกับผงะ เขาไม่ใช่คนปลอบใจคนอื่นเก่งสักเท่าไหร่จึงได้แต่ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก

…เอ้า ตอบมาสิ ไอ้ลูกซื่อบื้อ ฮารุกะคุงเองก็รอฟังคำตอบอยู่นะ

“ฉัน…” ท่าทางลังเลและสีหน้าลำบากใจของรินทำให้ฮารุกะผู้ซ่อนตัวอยู่ภายในจิตใจรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังจะถล่มลงมา

“เอ่อ ขอเวลานอกหน่อยนะริน ฉันขอทำใจแป๊ปนึง” คุณพ่อที่สัมผัสได้ถึงความวิตกกังวลของฮารุกะเอ่ยขัดจังหวะพลางยกมือขึ้นห้าม ทำเอารินหน้าเหวอด้วยความงุนงง

ทันใดนั้นวิญญาณของคุณพ่อก็กลับเข้าไปคุยกับฮารุกะภายในห้องแห่งจิตใจเช่นเดียวกับตอนที่พบกันครั้งแรก

“ฮารุกะคุง ฉันคงช่วยเธอได้แค่นี้แหละ อีกไม่นานก็จะหมดเวลาของฉันแล้ว” พ่อของรินที่ยิ้มแย้มอยู่เสมอกล่าวด้วยน้ำเสียงเจือความเศร้า “ดังนั้นต่อจากนี้ไป เธอกับรินต้องจัดการปัญหาด้วยตัวเองเท่านั้น ฉันคงมาคอยแกล้ง เอ๊ย คอยช่วยไม่ได้แล้วล่ะ”

“คุณพ่อครับ…” ฮารุกะเอ่ยเมื่อเห็นสีหน้าหม่นหมองของอีกฝ่าย เขาลืมนึกไปสนิทว่าวิญญาณของชายคนนี้กลับมายังโลกนี้ได้เพราะเป็นช่วงเทศกาลโอบ้ง ดังนั้นย่อมอยู่บนโลกนี้ได้ไม่นาน

“เพราะฉะนั้น จากนี้ไปพ่อก็ฝากดูแลรินด้วยล่ะ เอ้า ถึงตาเธอออกโรงแล้ว ฮารุกะคุง!” ชายวัยกลางคนเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่กลับมาร่าเริงเช่นเดียวกับทุกที ก่อนจะผลักฮารุกะให้โผล่พ้นออกมานอกบานประตู…

“ฮารุ นายเป็นอะไรหรือเปล่า” รินที่ถูกบอกให้รอถามขึ้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายนิ่งไปพักใหญ่

“ตอบมาเถอะ ริน” ในที่สุดฮารุกะที่กลับมาครอบครองร่างของตัวเองอีกครั้งก็เอ่ยขึ้น “ไม่ว่าคำตอบจะเป็นแบบไหนฉันก็พร้อมจะฟัง”

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฮารุ” ในที่สุดรินจึงเอ่ยขึ้นช้าๆ ราวกับพยายามเรียบเรียงความรู้สึกในใจออกมาเป็นคำพูด

“ฉันรู้แต่ว่าเวลาอยู่กับนายแล้วฉันไม่เป็นตัวของตัวเองเอาซะเลย ฉันมีความสุขเวลาอยู่กับนาย แต่ฉันก็รู้สึกเจ็บจี๊ดๆ เหมือนเป็นโรคหัวใจเวลาคิดเรื่องของนาย …ฉันชอบเวลานายยิ้ม แต่ฉันไม่ชอบเวลานายยิ้มให้คนอื่น ฉันชอบเวลานายมีความสุข แต่ฉันไม่ชอบเวลาที่คนอื่นเป็นคนทำให้นายมีความสุข ฉันดีใจที่ได้กลับมาเจอนายที่นี่อีกครั้ง ได้พบนาย ได้ว่ายน้ำด้วยกัน ได้ใช้เวลาร่วมกัน ได้หัวเราะอยู่ข้างๆ กัน”

คำพูดของรินขาดห้วงไปชั่วขณะหนึ่ง

“บางที ฉันอาจชอบนายก็ได้มั้ง ฮารุ…”

น้ำตาหลอกๆ ของคุณพ่อเมื่อกี้กลับกลายเป็นน้ำตาจริง เมื่อคำพูดนั้นหลุดจากปากริน

“ชอบฉัน…เหรอ…?” ฮารุกะทวนคำ อย่างไม่ค่อยมีสตินัก

“อือ…ฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอก แต่คิดว่าความรู้สึกของฉันมันน่าจะใกล้เคียงคำนี้ที่สุดแล้ว” รินตอบเขินๆ ก่อนจะกล่าวต่อด้วยท่าทางกล้าๆ กลัวๆ ที่ไม่สมกับเป็นรินเอาเสียเลย “ขอโทษนะ ฮารุ นาย…รังเกียจรึเปล่า ถ้านายไม่ชอบก็ไม่เป็นไรนะ ลืมๆ มันไป ยังไงฉันก็อยากจะเป็นเพื่อนกับนาย อยากว่ายน้ำกับนาย”

“เมื่อไหร่…?” ฮารุกะไม่ตอบคำถามของริน แต่กลับถามต่อ

“ถ้าชัดๆ ก็สองวันนี้ล่ะมั้ง…” นัยน์ตาของคนฟังเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย

…สองวันนี้…ก็เพราะคุณพ่อมายืมใช้ร่างงั้นสิ? รินไม่ได้ชอบตัวเราจริงๆ แต่เป็นเพราะคุณพ่อสินะ…

“นายไม่ได้ชอบฉันจริงๆ หรอก” ฮารุกะพูดเสียงแผ่ว พยายามเก็บความรู้สึกผิดหวังกับความรู้สึกเจ็บปวดราวกับถูกเข็มพันเล่มทิ่มแทงไว้ภายในใจ “นายชอบฉันที่ร่าเริงนั่นใช่มั้ย? นายน่าจะรู้ว่ามันไม่ใช่ตัวจริงของฉัน วันนี้นายกลับไปเถอะ แล้วจากนี้ต่อไปเรามาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม”

“เดี๋ยว ฮารุ ฟังก่อนสิ” รินคว้าข้อมือฮารุกะที่ทำท่าจะเดินหนี “ฉันบอกว่าเพิ่งรู้ชัดๆ สองวันนี้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันเพิ่งรู้สึกแบบนี้กับนายนะ”

ฮารุกะหันมาสบตารินด้วยดวงตาที่คลอไปด้วยหยาดน้ำ และพบว่าดวงตาของรินเองก็มีรอยรื้นเช่นเดียวกัน

“ริน อย่าร้องไห้สิ” ฮารุกะประคองใบหน้าของรินไว้ด้วยสองมือ

…น้ำตาของริน น้ำอย่างเดียวบนโลกนี้ที่เขาเกลียด…

“ฮารุ…นายจะปฏิเสธฉันก็ได้ แต่อย่าเข้าใจผิดได้มั้ย ฉันเสียใจ” เสียงของรินสั่นเครือ ทำเอาใจของฮารุกะอ่อนยวบ ณ วินาทีนี้รินจะชอบเขาหรือพ่อก็ไม่สำคัญอีกแล้ว

“ขอโทษ เข้าใจแล้ว ไม่ร้องนะ” ฮารุกะลูบศีรษะที่ปกคลุมด้วยผมสีแดงราวกับกำลังปลอบโยนเด็ก

“ยังไม่ได้ร้องสักหน่อย” รินเถียงกลับ ก่อนจะพูดต่อว่า “แล้วคำตอบของนายล่ะ ฮารุ เราจะเป็นเพื่อนกันต่อไป หรือยังไง”

ฮารุกะยิ้มบางๆ

“วันก่อนฉันถามนายใช่มั้ย ว่านายจะไล่ตามความฝันของพ่อเหรอ”

“ใช่ แล้วไง” รินตอบอย่างไม่เข้าใจนักว่าฮารุจะพูดเรื่องนี้ทำไม

“แล้วนายตอบว่ายังไง”

“ตอนนี้มันเป็นความฝันของฉันแล้ว” รินทวนคำพูดในวันนั้น

“แล้วไงต่อ” ฮารุกะกระตุ้น

“เอ่อ…แล้วนายล่ะ?…ล่ะมั้ง” รินบอกอย่างไม่ค่อยมั่นใจ

“ฉันอยากเป็นกำลังให้นาย… ริน” ฮารุกะคลี่ยิ้ม รินอดคิดไม่ได้ว่ามันเป็นรอยยิ้มที่เจิดจ้าที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมาในชีวิตนี้

“ให้ฉันเป็นกำลังให้นายได้มั้ย?”

— The End —

Thank you for reading : )

5 thoughts on “FLOW (12)

  1. ยินดีด้วยค่ะ ^ ^
    เรื่องนี้แอบจบเร็วกว่าที่คิด แอบเสียดายจังค่ะ
    ยังไงก็หวังว่าจะมีเรื่องต่อๆ ไปให้ได้อ่านกันนะคะ ^ ^ ขอบคุณมากค่ะ

    • ขอบคุณที่ติดตามและเอาใจช่วยรินจัง ฮารุจัง และมาโกะจังมาตลอดเช่นกันนะคะ 🙂

  2. ง่า จบแบบนี้หราเสียดายจัง เราชอบมาโกะจังมากกว่า😭😭

  3. กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!ตายแปปปปปปx/
    ชอบมากเลยค่ะ
    รินจังน่ารักมากกกกกกกกกๆๆๆๆๆๆ >////<
    เขียนเรื่องต่อไปอีกนะค่ะ น่ารักมากกกกก
    ชอบคู่นี้ที่มันฟุ้งฟิ้งมุ้งมิ้งที่สุด

    • ดีใจนะคะที่ชอบ ><

      อยากเขียนอีกเหมือนกันค่ะ แต่คนเขียนมีกันสามคน ตอนนี้ยังตกลงกันไม่ได้ค่ะว่าจะเขียนคู่ไหนดี กำลังทะเลาะกันอยู่ค่ะ (ฮาาา)

Leave a comment